เมื่อมีรายได้เข้าเกณฑ์ตามกฎหมายกำหนดก็เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งภาครัฐเองก็มีเงื่อนไขเกี่ยวกับ “สิทธิลดหย่อนภาษี” ให้ด้วย จึงขอรวมเอาข้อมูลเหล่านี้มาให้ทุกคนได้วางแผนก่อนต้องเสียภาษีในแต่ละปีว่ามีสิ่งไหนที่พอจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของตนเองได้บ้าง!

การวางแผนลดหย่อนภาษีจำเป็นแค่ไหน?
การวางแผนลดหย่อนภาษีถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนประหยัดเงินในการต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีลงพอสมควร ด้วยรูปแบบการเก็บภาษีเงินได้แบบขั้นบันได หากคุณนำเงินได้สุทธิหักกับค่าลดหย่อนได้มากเท่าไหร่ อัตราภาษีที่ต้องจ่ายก็มีสิทธิอยู่ในระดับน้อยลงด้วยนั่นเอง
สิทธิลดหย่อนภาษีเบื้องต้นที่ควรรู้
โดยทั่วไปสิทธิลดหย่อนภาษีจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อวางแผนการลดหย่อนของตนเองได้เลย
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว เช่น ลดหย่อนตนเอง คู่สมรส พ่อแม่ บุตร ผู้พิการ / ทุพพลภาพ
2. ค่าลดหย่อนด้านประกันและการลงทุน เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ (ตนเองและพ่อแม่) ประกันสังคม ประกันบำนาญ ลงทุนกองทุน RMF / SFF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน กบข. กองทุนการออมแห่งชาติ
3. ค่าลดหย่อนเงินบริจาค เช่น บริจาคให้โรงพยาบาล สถานศึกษา พรรคการเมือง
4. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละปีที่ภาครัฐกำหนด
เทียบให้เห็นภาพ! ทำประกันแต่ละแบบลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่
จากสิทธิลดหย่อนภาษีที่ระบุไปทั้ง 4 กลุ่ม จะเห็นว่าในกลุ่มของค่าลดหย่อนด้านประกันและการลงทุนจะมีส่วนของ “ประกัน” ที่สามารถนำมาใช้เพื่อลดหย่อนได้ ซึ่งใครที่กำลังวางแผนใช้ประกันชีวิต ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีลองมาดูตัวเลขว่าประกันแต่ละแบบลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
1. ประกันชีวิต (แบบปกติและแบบสะสมทรัพย์)
นำค่าเบี้ยประกันเพื่อเป็นสิทธิลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท กรมธรรม์ต้องคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
2. ประกันสุขภาพ (รวมประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ)
นำค่าเบี้ยประกันลดหย่อนตามจ่ายจริงไม่เกิน 25,000 บาท และรวมประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
3. ประกันสุขภาพพ่อแม่
นำค่าเบี้ยประกันลดหย่อนได้ไม่เกินคนละ 15,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าพ่อแม่ต้องมีรายได้ในปีภาษีนั้นไม่เกิน 30,000 บาท / ปี
4. ประกันบำนาญ
จะลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ ตามเบี้ยที่จ่ายจริง ไม่เกิน 200,000 บาท กรมธรรม์ต้องคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
รู้แบบนี้แล้วก็ลองเลือกประเภทของประกันให้ตอบโจทย์กับตนเองว่าแบบไหนเหมาะสมมากที่สุดนอกจากได้สิทธิลดหย่อนภาษี ยังเป็นการคุ้มครองค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน รวมถึงมีเงินเก็บสะสมเอาไว้ในยามเกษียณ หรือเงินก้อนให้คนข้างหลังเมื่อเสียชีวิตด้วย