การดูแลตัวเองถือเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นสภาพร่างกายก็ถดถอยไปตามกาลเวลา หนึ่งในปัญหาสุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้นั่นคือ “กระดูกพรุน” และเพื่อเป็นการระวังไม่ให้โรคร้ายนี้เกิดขึ้นกับตนเอง จึงอยากนำเสนอข้อมูลที่จะช่วยให้สาว ๆ หันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น เพราะโรคนี้มันทรมานมากกว่าที่คิด
สาเหตุของการเกิดโรคกระดูกพรุน
ถ้าว่ากันตามลักษณะของโรค สาเหตุมักเกิดจากปริมาณแคลเซียมที่อยู่ในร่างกายลดลง จึงมีผลกระทบต่อกระบวนการสร้างกระดูก บางรายอาจมีสาเหตุจากเซลล์กระดูกทำงานผิดปกติ ไม่สมดุล ส่งผลถึงให้เกิดการสลายของกระดูกเยอะกว่าการสร้างกระดูก นำมาซึ่งภาวะกระดูกพรุนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของอายุเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งผู้หญิงมักเจอปัญหานี้ได้เร็วกว่าผู้ชาย เมื่ออายุเลย 30 ปีขึ้นไป มวลกระดูกจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง โดยวัยที่พบโรคนี้ได้บ่อยคืออายุเกิน 60 ปีขึ้นไป จากการสำรวจพบว่าอยู่ในเกณฑ์ 10% ของผู้หญิงทั้งหมด และจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% เมื่ออายุเกิน 80 ปี
อาการของโรคกระดูกพรุนที่ควรรู้
ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ว่าตนเองกำลังป่วยด้วยโรคนี้เหตุเพราะไม่ได้มีตัวบ่งชี้หรือแสดงอาการใด ๆ มาก่อน จะรับรู้ได้ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุจนกระดูกหัก เมื่อไปรักษาจึงพบว่ามีปัญหาโรคกระดูกพรุนไปแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ลองสังเกตตัวเองสักนิด สิ่งที่กำลังจะบอกต่อไปนี้คืออาการโรคกระดูกพรุน
- มักมีปัญหาปวดหลังแบบเรื้อรัง แก้ด้วยวิธีไหนก็ไม่หายขาด
- ระดับความสูงของตนเองลดลง
- ยืนหรือเดินแล้วหลังค่อม กระดูกสันหลังช่วงบนโค้งงอลง
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กระดูกบริเวณแขน หัวไหล่ ข้อมือ สะโพก ขา หรือกระดูกสันหลังมักแตกหักง่ายมาก
วิธีป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน
ทุกคนรู้ดีว่าสารอาหารอย่างแคลเซียมคือผู้ช่วยชั้นเยี่ยมในการดูแลกระดูกและฟัน ดังนั้นจึงควรหันมาทานอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูง เช่น นมวัว, ปลาตัวเล็ก, เต้าหู้, ถั่วและธัญพืช, ผักใบเขียว รวมถึงกลุ่มอาหารวิตามินดีสูง อาทิ ไข่แดง เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ตับ ก็ทานได้เช่นกัน แต่ควรทานในปริมาณเหมาะสม
อีกทั้งใครที่มีปัญหาน้ำหนักเกินมาตรฐานแนะนำให้ควบคุมอาหาร เพื่อกระดูกจะได้ไม่ต้องรับภาระมากเกินไป หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน งบสูบบุหรี่ อย่าใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ติดต่อเป็นเวลานาน เท่านี้สุขภาพผู้หญิงทุกคนก็จะแข็งแรง สมวัย แม้อายุเยอะก็ยังน่ามองและดูอ่อนกว่าวัยได้เสมอ ลองนำไปทำตามกันได้เลย