“ยาคุมกำเนิด” ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับชายหญิงที่ยังไม่พร้อมมีครอบครัว หรือยังไม่อยากมีลูก อย่างไรก็ตามการทำความเข้าใจที่ถูกต้องทั้งเรื่องการทานให้เหมาะสม ใครไม่เหมาะกับการทาน ไปจนถึงหากต้องทานเป็นระยะเวลานาน ๆ มีผลข้างเคียง ผลเสียใดกับร่างกายบ้าง มีข้อมูลทั้งหมดมาบอกเล่ากันแล้ว
ใครที่ไม่ควรทานยาคุมกำเนิด เสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย
สำหรับผู้หญิงทั่วไปหากต้องการคุมกำเนิดการกินยาคุมสามารถทำได้ตามปกติ แต่คนที่มีปัญหาสุขภาพไม่ว่าจะเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันที่ขา, มีภาวะเสี่ยงจะเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตัน, โรคหัวใจ, ปอดมีปัญหา, ผู้หญิงที่มีอายุมาก, มีปัญหาเยื่อบุมดลูกไม่แข็งแรง, โรคอ้วน ไปจนถึงคนที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ เพราะถ้าทานแล้วโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายมีสูงมาก
วิธีทานยาคุมกำเนิดให้ได้ผลต้องทำอย่างไร
ต้องอธิบายให้เข้าใจว่าปกติแล้วยาคุมกำเนิดแบบเม็ดจะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ (ไม่นับรวมยาคุมฉุกเฉิน) ประกอบไปด้วย
1. ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม
สามารถแบ่งออกได้ทั้งยาคุม 21 เม็ด และ 28 เม็ด (เป็นยาหลอก 7 เม็ด) รวมถึงบางยี่ห้อยังมีแบบ 24 เม็ด (ยาหลอก 4 เม็ด) และยาฮอร์โมน 22 เม็ด จากนั้นเว้นช่วงทานยา 6 วัน ตัวยาประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรน ส่วนใหญ่จะนิยมให้ทานประเภทนี้ โดยต้องทานเวลาเดียวกันทุกวัน 1 เม็ด เมื่อครบแผงแล้วให้หยุด 7 วัน (สำหรับแบบ 21 เม็ด)
2. ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว
สำหรับยาประเภทนี้จะเหมาะกับผู้หญิงดูแลตัวเองในระหว่างที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
ผลข้างเคียงหากทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
สำหรับคนที่พึ่งเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดแรก ๆ อาจรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม เจ็บหน้าอก เลือดออกแบบกะปริบกะปรอยจากนั้นก็จะเบาลง อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ทานมาเป็นเวลานานโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงอื่นก็มีเพิ่มตามมา เช่น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น, ผมร่วง, เป็นสิว
ส่วนใครที่มีกรรมพันธุ์โรคมะเร็ง การทานยาคุมนาน ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงขึ้นอีกนิดหน่อย เหตุเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามหากหยุดทานยาเกิน 10 ปี ความเสี่ยงดังกล่าวก็จะน้อยลงเทียบเท่าคนปกติ
วิธีเลือกซื้อยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับการใช้งาน
อีกคำถามยอดฮิตทั้งมือใหม่หัดทาน หรือคนที่ทานมานานแล้วก็ตามคงหนีไม่พ้น ควรซื้อยาคุมยี่ห้อไหนดี? คำตอบไม่ยาก ลองปรึกษาเภสัชกรพร้อมอธิบายในสิ่งที่ตนเองต้องการ เช่น ยาคุมแบบ 21 เม็ด ซึ่งยี่ห้อที่วางขายก็มีมาตรฐานชัดเจนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากใช้แล้วผลข้างเคียงเยอะก็อาจต้องเปลี่ยนยี่ห้อใหม่หรือปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด