fbpx

เลือกหุ้นอย่างไรให้รวย มือใหม่เล่นหุ้นต้องฟังทางนี้

หนึ่งในประเภทการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงจนหลายคนสามารถรวยได้ในชั่วพริบตาต้องยกให้กับการเล่นหุ้น แต่ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จเพราะถ้าหากไม่รู้จักวิธีในการเลือกหุ้นอย่างเหมาะสมโอกาสขาดทุนก็มีสูงด้วยเช่นกัน ใครที่อยากเข้าสู่วงการนี้ในฐานะ “มือใหม่เล่นหุ้น” ลองมาดูกันว่าจะมีวิธีเลือกหุ้นอย่างไรให้รวย!

a man sitting at a desk, focused on three computer screens in front of him, each displaying stock boards

รู้จักกับประเภทหุ้นตามสไตล์การลงทุน

1. หุ้นโตช้า (Slow Growers)

ส่วนมากมักเป็นหุ้นของกิจการขนาดใหญ่ ปันผลดีและสม่ำเสมอ ธุรกิจมั่นคง อิ่มตัวมานาน แต่ไม่ค่อยหวือหวาอะไรมากนัก เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นความชัวร์

2. หุ้นแข็งแกร่ง (Stalwarts)

มักเป็นหุ้นของกิจการขนาดใหญ่ มีคนรู้จักเยอะ โอกาสเติบโตยังคงเดินหน้าได้เรื่อย ๆ แม้ตัวเลขไม่หวือหวาแต่ก็ได้ปันผลหรือตัวเลขสีเขียวตลอดในทุกวิกฤต

3. หุ้นเติบโต (Fast Growers)

มักเป็นหุ้นของธุรกิจขนาดเล็ก มีเรื่องราวน่าสนใจจนทำให้ธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงสั้น ๆ

4. หุ้นวัฏจักร (Cyclical)

มักเป็นหุ้นของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร มูลค่าหุ้นมักผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจหรือราคาสินค้า

5. หุ้นฟื้นตัว (Turnaround)

ในอดีตหุ้นตัวนี้เคยติดลบ ธุรกิจอาจขาดทุนมาก่อน แต่ปัจจุบันสัญญาณการฟื้นตัวเป็นไปในทิศทางที่ดี มีโอกาสทำกำไร ทว่าความเสี่ยงก็ยังสูง

6. หุ้นสินทรัพย์มาก (Asset Play)

เป็นประเภทหุ้นที่ธุรกิจเหล่านั้นมีสินทรัพย์เยอะ แต่ยังไม่รู้มูลค่าชัดเจน หรือมีการซ่อนตัวเลขเอาไว้ในงบดุล

มือใหม่เล่นหุ้น เลือกลงทุนยังไงให้รวย

1. ดูจากปัจจัยพื้นฐานของหุ้น

มือใหม่เล่นหุ้นสิ่งแรกที่ควรทำในการเลือกหุ้นคือประเมินจากปัจจัยพื้นฐานของหุ้นนั้น ๆ ต้องเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี มีความมั่นคง ประวัติการจ่ายเงินปันผลตรงเวลา ส่วนมากมักเป็นหุ้นที่น่าลงทุนระยะยาว กำไรไม่หวือหวาแต่แน่นอน

2. ประเมินความเสี่ยงของตนเอง

ในฐานะมือใหม่เล่นหุ้นต้องประเมินความเสี่ยงที่สามารถแบกรับไหว อย่ามองแค่ตัวเลขผลกำไรแต่ต้องคิดว่าหากหุ้นนั้น ๆ ติดลบเป็นสีแดง คุณยินดีนำเงินก้อนที่ลงทุนทิ้งเอาไว้มากน้อยแค่ไหน

3. ปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ

ต้องศึกษาและสังเกตหุ้นในพอร์ตเป็นประจำ ตัวไหนมีโอกาสเติบโต ตัวเลขสูงขึ้นก็ลงทุนเพิ่ม ตัวไหนมองแล้วอาจขาดทุนก็รีบถอนแล้วนำไปลงกับตัวอื่นแทน ส่วนมากมักมีการปรับพอร์ตทุก 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี

4. ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ

อีกวิธีที่น่าสนใจคือลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเพื่อให้ประเมินว่าหุ้นตัวไหนน่าสนใจ จากนั้นพยายามศึกษาหาความรู้ให้ได้มากที่สุด

มือใหม่เล่นหุ้นทั้งหลายต้องระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเอาไว้ตลอด อย่าชะล่าใจคิดว่าทุกอย่างจะเป็นตามที่หวังเพราะมันอาจสวนทางได้เสมอ ลงทุนด้วยสติ อย่าโลภจนเกินเหตุ

Sign Up Here!

Get notified when more articles like these get published.

Share Article

Sign Up

Get notified when this course becomes available again! 

Quantum AI