เวลาส่วนตัวของลูก สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทราบ
“เวลาส่วนตัว” ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างต้องการไม่แพ้กัน การให้เวลาคนที่เรารักได้มีเวลาส่วนตัวเป็นสิ่งจำเป็น และควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งเวลาส่วนตัวที่ว่านี้ผู้ใหญ่มักจะหาให้ตัวเองได้เสมอเมื่อต้องการ แต่กับลูกรักบางครั้งอาจเลือกไม่ได้ขนาดนั้น อาจเป็นเพราะพ่อแม่ไม่เข้าใจ หรือเหตุผลต่างๆ นาๆ เราไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่าเหตุใดการมีเวลาส่วนตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นกับทุกคน
ทำไมเวลาส่วนตัวจึงจำเป็น
เพราะเหตุใดทำไมใครๆ จึงโหยหาเวลาส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นเพศ หรือวัยไหนก็ตาม เมื่อมองแบบผิวเผินเวลาส่วนตัวก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก แต่เมื่อมองแบบลงรายเอียดจะเห็นได้ว่าเวลาส่วนตัวมีความสำคัญและจำเป็นมาก ในแต่ละวันควรแบ่งเวลาให้ลูกได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง เพื่อให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ บางครั้งในชีวิตประจำวันลูกอาจเผชิญกับตารางเรียน หรือกิจกรรมที่พ่อแม่จัดไว้ให้แบบแน่นเอี๊ยด ส่งผลให้รู้สึกเหน็ดเหนื่อย การมีเวลาส่วนได้ทำอะไรตามใจตัวเองบ้างคงจะรู้สึกดีไม่น้อยเลย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของลูกได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงลูกแบบให้เวลาส่วนตัวถือเป็นการเลี้ยงลูกเชิงบวกของพ่อแม่ยุคใหม่เลยทีเดียว
ความหวังดีของพ่อแม่อาจเป็นสาเหตุที่ลูกไม่มีเวลาส่วนตัว
หลายครอบครัวที่วางแผนชีวิต วางแผนการเรียน วางแผนกิจกรรมให้ลูกได้ทำหรือเข้าร่วมจนส่งผลให้ช่วงเวลาที่ลูกกำลังเติบโตได้ใช้ไปกับสิ่งที่พ่อแม่วางไว้ให้จนหมดสิ้น โดยไม่มีเวลาส่วนตัวให้ได้ใช้ชีวิตให้ได้เที่ยวเล่นตามประสาเด็กเลย แสดงให้เห็นว่าพ่อแม่เข้มงวดมากจนเกินไป หากปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ไปเรื่อยๆ จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี การมีชีวิตที่ดีต้องควบคู่ไปกับการได้ใช้ชีวิตตามวัย พ่อแม่ไม่ควรเข้มงวดกับลูกจนเกินไป
ผลกระทบของการที่ลูกไม่มีเวลาส่วนตัว
เมื่อลูกเติบโตมากับการเลี้ยงดูของพ่อแม่เข้มงวด ส่งผลให้ลูกไม่มีเวลาส่วนตัวตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้นส่งผลกระทบต่อตัวลูกโดยตรงนั่นก็คือ เด็กจะเก็บกด เครียด กดดันตัวเอง ปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาด้านความสัมพันธ์ เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้เมื่อเกิดในเด็กจะแก้ไขได้ยาก ในเด็กบางรายอาจไม่กล้าพูดหรืออธิบายกับพ่อแม่จำเป็นต้องพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษา
รู้ได้อย่างไรว่าลูกมีเวลาส่วนตัวพอไหม
เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงมีคำถามในใจอยู่ไม่น้อยว่าลูกมีเวลาส่วนตัวพอหรือไม่ ณ ปัจจุบัน สามารถทำได้เลยง่ายๆ คือ การสังเกตว่าลูกมีเวลานั่งทำกิจกรรมเอนเตอร์เทนต่างๆ มากน้อยเพียงใด หากยังพอมีเวลาเล่นของเล่น เล่นกับเพื่อน หรือทำอะไรก็ได้ตามใจ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นช่วง Relax time นั่นเอง วันละ 2-3 ชั่วโมงของเด็ก เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเด็ก หากอายุน้อยก็อาจเพิ่มช่วง Relax time ให้มากขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันหากในแต่ละวันของลูกเอาแต่เรียน ทำกิจกรรมวนซ้ำไปแบบนี้จนไม่มีเวลาทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวหรือได้มีเวลาพักผ่อนส่วนตัว นั่นหมายความว่าพ่อแม่ต้องรีบให้เวลาส่วนตัวกับลูกโดยด่วนเลยค่ะ
พ่อแม่จัดเวลาแบบไหนดี
ขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายๆ เลยก็คืออย่างน้อยใน 1 วันให้ลูกได้มีเวลาพักผ่อน 3-4 ชั่วโมง ไม่ควรจัดตารางเรียน หรือตารางกิจกรรมที่แน่นจนเกินไป บางครั้งอาจเกินกำลังการเรียนรู้ของลูกไปแล้วก็ได้ ความรักที่ดีของพ่อแม่บางครั้งก็มาในรูปแบบของการปล่อยให้ลูกได้มีเวลาส่วนตัวบ้างนั่นเอง
สำหรับพ่อแม่แล้ว ลูกถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่ต้องดูแลอย่างดีที่สุด การให้ความรัก ความเอาใจใส่เป็นสิ่งสำคัญที่ลูกควรได้รับ และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการให้เวลาส่วนตัวแก่ลูก ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อลูกไม่แพ้ความรักของพ่อแม่ ให้ลูกได้ใช้เวลากับตัวเองถือเป็นการมอบความรักอีกรูปแบบหนึ่ง