ความเชื่อพ่อแม่เอเชียกับการตีลูกให้ได้ดี
การเลี้ยงลูกแบบคนเอเชียจะมีความแตกต่างกับฝั่งยุโรปหรืออเมริกาชัดเจนในด้านของการสร้างกรอบ กฎระเบียบ ให้เด็กอยู่ในความเคารพ มีวินัย และเดินตามเส้นทางที่ผู้ใหญ่ขีดเอาไว้ รวมถึงมีการลงโทษด้วยวิธี “ตี” เพื่อหวังให้ลูกทำตามระเบียบ ไม่ออกนอกลู่ทาง ทว่าความจริงแล้วนั่นอาจเป็นเพียงความเชื่อของพ่อแม่เอเชียที่ทำสืบต่อกันมา กระทั่งปัจจุบันเริ่มมีการตั้งคำถามว่าหากตีลูกเพื่อหวังให้เขาได้ดีจะเป็นจริงหรือไม่?
เลี้ยงลูกแบบคนเอเชียที่สืบต่อกันมายาวนาน
อย่างที่เกริ่นเอาไว้เบื้องต้นว่าการเลี้ยงลูกแบบคนเอเชียมักสร้างกรอบ มีข้อกำหนดต่าง ๆ ชัดเจน เพื่อให้เด็กทุกคนอยู่ในระเบียบ เลี้ยงดูง่าย ไม่ดื้อ มีการลงโทษด้วยวิธีตีหากเด็กดื้อหรือทำสิ่งผิดพลาดภายใต้สำนวนที่ว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” นี่คือสิ่งที่สืบทอดกันมายาวนานและคนเอเชียจะคุ้นเคยกับสไตล์การเลี้ยงลูกแนวนี้อย่างดี
การตีลูกเพื่อหวังให้ได้ดีแบบพ่อแม่เอเชีย สร้างผลลัพธ์อย่างไร
ในอดีตการเลี้ยงลูกแบบคนเอเชียด้วยวิธีตีอาจได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ปัจจุบันยืนยันว่าการเลี้ยงลูกให้ถูกวิธีต้องไม่ใช่การสร้างความรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยสื่อที่เข้าถึงมากขึ้นเด็กจึงรับรู้ง่ายกว่าสมัยก่อน การตีเพียงเพราะเขาทำไม่ถูกต้อง ไม่ถูกใจ เสี่ยงต่อการมีแนวคิดผิด ๆ จนนำไปสู่การกระทำที่คาดไม่ถึงในหลายมิติ หากพ่อแม่ต้องการสร้างครอบครัวอบอุ่นจึงอยากแนะนำให้เลี้ยงด้วยการใช้เหตุผลมากกว่า
อย่างไรก็ตามพ่อแม่หลายคนที่ยังติดการเลี้ยงแบบเดิม ๆ อาจมีข้อสงสัยว่า ทำไมพ่อแม่ถึงไม่ควรตีลูก? คำตอบก็ชัดเจนว่าการใช้ความรุนแรงไม่ได้ส่งผลดีต่อใครเลย แถมยังอาจสร้างปมในใจให้กับเด็ก จำฝังใจกับสิ่งที่ถูกกระทำ และนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่นในอนาคต
ปรับวิธีเลี้ยงลูกแบบฝรั่ง ให้อิสระพร้อมดูแลอยู่ห่าง ๆ
การเลี้ยงลูกเชิงบวกอีกวิธีที่อยากแนะนำนั่นคือ ให้ปรับวิธีเลี้ยงในสไตล์ฝรั่งดูบ้าง เช่น ให้อิสระทางความคิดและการกระทำแบบเต็มที่ ภายใต้เงื่อนไขต้องไม่สร้างความเดือดร้อนหรือวุ่นวายต่อผู้อื่น หากมีปัญหาพูดคุยกันได้ชัดเจน ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะทำโทษ นี่คืออีกวิธีสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวโดยลูกเองก็มีความสุข พ่อแม่ไม่ต้องเหนื่อยมากเกินเหตุ หากมีเรื่องไหนที่ตักเตือนก็อธิบายโดยใช้เหตุผล
แม้การเลี้ยงลูกแบบคนเอเชียอาจยังฝังรากลึกแต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนพ่อแม่เองก็ต้องรู้จักปรับสไตล์ให้ถูกต้อง เพื่ออนาคตและการเติบโตของลูก ไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้กับพ่อแม่และคนรอบข้าง และย้ำว่าการตีลูกอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมเสมอไป
